เมื่อซื้อที่ดินผืนงามในย่านที่คุ้นเคยและได้แรงสนับสนุนจากคุณพ่อ-คุณสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา ประธานกรรมการบริษัท ฤทธา จำกัด ซึ่งมีความพร้อมทางด้านวิศวกรรมการก่อสร้าง ดร.ภาณุ เชาว์ปรีชา นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญงานบริหารจัดการธุรกิจ จึงตัดสินใจสร้างบ้านหลังใหม่ให้ครอบครัวแบบไม่ลังเล “ความจริงผมก็ไม่คิดว่าจะทำบ้านเพราะมีบ้านอยู่แล้วแต่คุณพ่อแนะนำว่าให้สร้างบ้านเลย ถ้าช้าเดี๋ยวราคาวัสดุและค่าก่อสร้างมันขึ้น ผมก็ให้บริษัทที่เคยทำงานกับคุณพ่อออกแบบ ซึ่งดูแล้วเป็นบ้านหน้าตาแข็งๆทื่อๆ โครงส้รางเป็นตึกเลย เพราะเขาเป็นบริษัทวิศวกรรมเลบไม่มีความเป็นสถาปนิกเท่าไหร่ ผมจึงต้องหาบริษัทสถาปยิกมาช่วยดูแบบให้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี อาร์ต เทค โฮม รวมอยุ่ด้วย พอเอาแบบเดิมไปให้ดู เขาก็ใส่โน่นใส่นี่ เปลี่ยนมุมหลังคา ปรับตรงนั้นตรงนี้ แต่ว่าโครงสร้างทางวิศวกรรมหลักๆยังเหมือนเดิมนะ เรียกว่าเปลี่ยนรูปลักษณ์หน้าตาของบ้านใหม่จนดูเป็นงานสถาปัตยกรรมที่สวยงามเลยแหละ” ดร.ภาณุพูดถึงแบบบ้านหลังใหม่ของตัวเอง

“ตอนแรกเราก็รู้สึกว่าโจทย์ยาก เพราะเจ้าของบ้านเป็นถึงลูกชายนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นประธานกรรมการบริหารของบริษัท ฤทธา ด้วย แล้วงานวิศวกรรมเราจะไหวเหรอเพราะบริษัทเราก็เป็นบริษัทเล็กๆ พอเริ่มทำแบบและได้มีการพูดคุยเรื่องคอนเซ็ปต์ปรากฎว่าดร.ภาณุชอบ คุณพ่อคุณแม่เขาก็เลยตามใจและยอมให้เราทำทางสถาปนิกของเราจึงออกแบบโดยปรับจากของเดิมที่เป็นโครงส้รางตึกหน้าตาธรรมดาๆ ให้ทันสมัยดูแล้วเฉี่ยวขึ้น เพื่อให้เหมาะกับบุคลิกเจ้าของที่เป็นคนรุ่นใหม่วัย 30 กว่าๆ โดยทำขึ้นมาเป็นรูป 3 มิติ ดร.ภาณุดูก็ชอบและให้บริษัทเราออกแบบ รวมถึงเป็นผู้ดูแลเรื่องการก่อสร้างไปด้วยเลย” คุณเจตนา โลห์ศิริ หรือ คุณเล็ก ผู้บริหาร บริษัท อาร์ต เทค โฮม จำกัด เล่าถึงที่มาของการทำบ้าน

สถาปนิกของ บริษัท อาร์ต เทค โฮม จำกัด นำแบบเดิมที่อยู่ในกระดาษของ ดร.ภาณุ มาปรับโฉมใหม่ โดยเน้นโครงสร้างทั้งภายนอกและภายในโปร่งโล่ง ภายใต้สีเอิร์ธโทนที่ให้อารมณ์อบอุ่นดูสะอาดตา เพิ่มคามโดดเด่นด้วยลักษณะหลังคารูปแบบโมเดิร์นซึ่งจัดวางตำแหน่งมุมให้ดูเหลื่อมสลับรับกันอย่างเหมาะเจาะ ลดทอนความแข็งกระด้างของโครงสร้างด้วยการติดระแนงกันแดดสีไม้ธรรมชาติ พร้อมกับเปิดช่องว่างให้ผนังภายนอกและจัดวางฟังก์ชั่นใช้สอยภายในได้อย่างลงตัว ทั่วบริเวณบ้านจึงสามารถเปิดรับแสงแดด สายลม และมุมมองที่สดชื่นของสวนได้รอบด้าน ซึ่งช่วยทำให้ภาพลักษณ์โดยรวมของบ้านโครงส้รางตึก 3 ชั้น ขนาดใหญ่ ที่เคยทึบตันดูเท่ทันสมัย และได้บรรยากาศโปร่งโล่งน่าสบาย แตกต่างจากรูปแบบเดิมมาก

ภายในบ้านกำหนดให้ชั้นล่างเป็นพื้นที่ใช้สอยส่วนกลาง โดยออกแบบเป็นโถงโล่งจัดวางชุดรับแขกดีไซน์เรียบๆ เปิดพื้นที่และมุมมองโล่งจรดถึงฝ้าเพดานชั้น 2 ต่อเนื่องไปยังมุมดนตรีที่มีเปียโนตั้งโดดเด่น ส่วนด้านในจัดเป็นมุมรับประทานอาหารและแพนทรีครัวในบรรยากาศเรียบง่ายดูเป็นกันเอง โดยมีห้องแม่บ้านและมุมซักล้างตั้งอยู่ทางด้านหลังอย่างเป็นสัดส่วน ระหว่างพื้นที่ทั้ง 3 ชั้น มีบันไดไม้ขนาดกว้างเป็นจุดเชื่อมโยงถึงกัน ชั้น 2 จัดเป็นห้องนอนใหญ่และโฮมเธียเตอร์ ส่วนชั้น 3 จัดเป็นห้องนอน ซึ่งทุกๆห้องนอนมีพื้นที่กว้างขวางและตกแต่งเรียบง่ายเน้นความสะดวกสบายเป็นหลัก

“ผมอยากให้ฟังก์ชั่นมันใช่สำหรับครอบครัวเรีท่สุดสิ่งต่างๆ ที่เคยเป็นปัญหาผมพยายามแก้ไขและไม่ทำให้มันเกิดขึ้นที่บ้านหลังนี้ ตอนอยู่บ้านหลังเดิมผมเปิดแอร์ทั้งวัน เพราะโครงสร้างไม่ได้โปร่งและมีช่องให้ลมผ่านเข้า-ออกมาเหมือนกับบ้านหลังนี้ ซึ่งมีระเบียงให้ออกมานั่งเล่นเยอะมากนะ และทุกมุมมีลมผ่านเข้า-ออกตลอด สามารถนั่งรับลมใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาตินอกบ้านอย่างสบายๆ ได้ทั้งวัน ผมว่าบ้านก็คือสถานที่ที่รเอยู่และใช้ชีวิตร่วมกันแล้วมีความสุข ทุกคนมีพื้นที่ มีสเปซของตัวเอง และมีพื้นที่หรือสเปซที่ทุกคนสามารถอยู่แชร์ความสุขด้วยกันได้ ซึ่งผมคิดว่าบ้านหลังนี้ก็เป็นแบบนั้น” ดร.ภาณุกล่าวทิ้งท้ายถึงบ้านตัวเองอย่างมีความสุข

The Builder’s View

       คุณเจตนา โลห์ศิริ หรือ คุณเล็ก ผู้บริหาร บริษัท อาร์ต เทค โฮม จำกัด บอกว่าโจทย์หลักของการทำบ้านหลังนี้ คือการทำงานที่ออกแบบโครงสร้างเดิมไว้ให้เปลี่ยนออกมาเป็นงานสถาปัตยกรรมที่สวยงาม

“การจัดวางตำแหน่งและปังก์ชั่นต่างๆ ของบ้านปรับได้น้อยค่ะ เพราะทุกอย่างถูกบังคับด้วยเสาเข็มที่เจ้าของบ้านตอกลงไปแล้ว เราจึงพยายามปรับฟังก์ชั่นเท่าที่จะเป็นไปได้และมองในรูปของงานสถาปัตยกรรมที่สามารถไปด้วยกันได้ดี ซึ่งจากลักษณะของบ้านหลังนี้ที่เป็น 3 ชั้น รูปทรงสูง โครงส้รางโปร่งโล่ง ถ้าออกแบบไม่ดีก็จะดูชะลูดเหมือนคนสูงตัวผอม สถาปนิกของเราก็คุยกับเจ้าของบ้าน ซึ่งเขาเป็นคนที่มีมุมมองดีและเข้าใจงานทางด้านนี้อยู่แล้ว ซึ่งความคิดเห็นของเราก็ตรงกัน คือทำบ้านโครงสร้างโปร่งโล่งแบบโมเดิร์น เพิ่มเหลี่ยมมุมหลังคาให้ดูเท่ๆ เฉี่ยวๆ และติดระแนงกันแดดช่วยเพิ่มอารมณ์อบอุ่นนุ่มนวลให้กับบ้านเหมือนอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ”