เทคนิคเลือกวัสดุปูพื้นบ้าน ให้ประหยัดและทนทาน

วัสดุปูพื้น ส่วนประกอบสำคัญของพื้นบ้านที่ทำหน้าที่รองรับน้ำหนัก พร้อมบ่งบอกถึงสไตล์ของบ้าน ดังนั้นการเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งาน พื้นที่แต่ละห้อง และแบบบ้านจึงเป็นโจทย์ที่ต้องให้ความสำคัญ และใส่ใจในการเลือก

ปัจจุบันมีวัสดุปูพื้นหลากหลายประเภท การเลือกใช้วัสดุปูพื้นที่กับแต่ละพื้นที่ในบ้าน จึงต้องรู้จักคุณสมบัติเด่น-ด้อยและความเหมาะสมให้เข้ากับความต้องการใช้งาน งบประมาณ รวมถึงให้ความรู้สึก อารมณ์ และบรรยากาศในบ้านที่ต่างกัน

เพราะหากเลือกวัสดุผิดอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง ทำให้เสียงบประมาณในการปรับเปลี่ยนซ่อมแซม รวมทั้งยังไม่ปลอดภัยสำหรับการใช้งาน

1. ไม้จริง

วัสดุไม้จริงถูกใช้งานมายาวนาน และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ สร้างความอบอุ่นให้กับบรรยากาศภายในบ้าน และด้วยความงดงามของลายไม้ที่มีความแตกต่างโดดเด่น ทำให้พื้นบ้านสวยงามมีเอกลักษณ์

ไม้ที่นิยมนำมาใช้ปูพื้นบ้านส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นไม้เนื้อแข็งอย่าง ไม้แดง ไม้ประดู ไม้มะค่า ไม้เต็ง จะช่วยให้อายุการใช้งานของพื้นไม้ยาวนานขึ้น

ข้อดี

• มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ

• ดูหรูหรามีราคา

• ให้ผิวสัมผัสที่สบายเท้า

• ด้วยคุณสมบัติที่สามารถถ่ายเทความร้อนได้เร็วจึงทำให้ภายในบ้านเย็น ไม่ร้อนอบอ้าว

ข้อเสีย

• อาจมีเสียงดังเวลาเดิน

• ดูแลยากและมักเกิดปัญหาเรื่องปลวกหากไม่มีการป้องกันที่ดี

• เนื้อไม้มีลักษณะที่สามารถยืดหดตัวได้ตามสภาพอากาศ

• มีราคาค่อนข้างสูงกว่าวัสดุชนิดอื่น

2. ไม้ลามิเนต

ไม้ลามิเนตเป็นวัสดุปูพื้นที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ทดแทนไม้จริง ด้วยคุณสมบัติที่สามารถปิดข้อเสียของไม้จริงได้จึงทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังให้ความรู้สึกอบอุ่น ทำให้บรรยากาศในบ้านมีชีวิตชีวา

การเลือกใช้ไม้ลามิเนตควรดูที่ความหนาของแผ่นไม้ หากยิ่งมีความหนามากก็ยิ่งรองรับน้ำหนักและแรงกดดับได้ดีมากเช่นกัน โดยความหนาของแผ่นไม้ที่รับแรงกดทับได้ดีจะอยู่ที่ประมาณ 8-12 มิลลิเมตร

ข้อดี

• น้ำหนักเบาสามารถติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว

• มีลวดลวยให้เลือกอย่างหลากหลาย

• ทนทานต่อรอยขีดข่วน

• ราคาถูกกว่าไม้จริงหลายเท่า

ข้อเสีย

• ไม่เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีความเปียกชื้น เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาโป่งพองได้ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน

• หากปูพื้นไม่ดีอาจมีปัญหาผิวหน้าเรียบไม่เสมอกัน และไม้โก่งยุบตัว

3. ไม้ปาร์เกต์

ไม้ปาร์เกต์เป็นการนำไม้หรือเศษไม้จริงที่เหลือจากการทำเฟอร์นิเจอร์หรือจากการทำไม้แผ่นใหญ่มาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีหลายเกรดหลายราคา และหลายขนาด การใช้ในงานปูพื้นจะนำแต่ละชิ้นมาเรียงต่อกัน

การปูไม้ปาร์เกต์สามารถปูได้หลากหลายสไตล์ และใช้ปูทับพื้นคอนกรีตได้แต่ตัวคอนกรีตจะต้องมีความแห่งมากพอ และกาวที่ใช้ยึดติดควรมีคุณภาพสูง และที่สำคัญการปูพื้นต้องเว้นระยะพื้นที่ไว้เผื่อให้ไม้ขยายตัว

ข้อดี

• สร้างความสวยงามให้กับพื้นบ้าน

• ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเข้าถึงธรรมชาติ

• มีราคาถูกกว่าไม้จริง เพราะสามารถนำเศษชิ้นส่วนของไม้จริงมาผลิตได้

ข้อเสีย

• หากมีการรื้อถอนจะทำให้แผ่นไม้เสียหายจึงอาจนำกลับมาใช้ใหม่ได้ยาก

• การติดตั้งโดยกาวทำให้ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีความเปียกชื้น

• ผิวของไม้มักเกิดร่องรอยขูดขีดได้ง่าย

• ไม้ปาร์เกต์ทำจากไม้จริงจึงอาจมีปัญหาเรื่องปลวก

4. กระเบื้องเซรามิก

กระเบื้องเซรามิกในขั้นตอนการผลิตจะผ่านการเผาผ่านอุณหภูมิที่สูงอย่างน้อย 1-2 ครั้ง แล้วเข้าสู่ขั้นตอนของการนำไปขึ้นรูป และเคลือบผิวตกแต่งลวดลายให้เกิดความสวยงาม

กระเบื้องเซรามิกมีลวดลายให้เลือกมากมาย และมีหลายขนาด จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่การเลือกกระเบื้องชนิดนี้ควรตรวจสอบผิวสัมผัสให้เหมาะกับการใช้งานและผู้อยู่อาศัย เพราะมีทั้งแบบผิวด้านและผิวมัน หากบ้านไหนมีเด็กหรือผู้สูงอายุควรเลือกแบบผิวด้านเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการลื่น

นอกจากนี้ขนาดของกระเบื้องยังมีผลต่อขนาดห้องและความรู้สึกด้วย เช่นห้องที่มีพื้นที่น้อยควรเลือกกระเบื้องแบบแผ่นเล็ก เพราะหากเป็นแบบแผ่นใหญ่จะปูได้น้อยแผ่นทำให้ห้องดูเล็ก และให้ความรู้สึกคับแคบอึดอัด

ข้อดี

• มีขนาด สีสัน และลวดลายให้เลือกอย่างหลากหลาย

• น้ำหนักเบา

• กันน้ำได้ดี

• ใช้งานได้กับหลายๆ ห้อง

ข้อเสีย

• ความสามารถในการรับน้ำหนักมีข้อจำกัด มีโอกาส

• ผิวสัมผัสที่เย็นจึงไม่เหมาะกับบางฤดู

5. กระเบื้องแกรนิตโต้

กระเบื้องแกรนิตโต้ได้รับความนิยมสูงในการนำมาใช้งาน โดยเฉพาะการปูพื้นบริเวณชั้นล่างของบ้าน หรือพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก ด้วยคุณสมบัติที่มีลักษณะคล้ายหิน มีความแข็งแรง ทนทาน ทนต่อความชื้น ดูดซึมน้ำต่ำ ที่สำคัญยังสวยงามและมีให้เลือกหลากหลายลาย

การเลือกกระเบื้องแกรนิตโต้ควรทดลองเคาะหรือยกกระเบื้องสำรวจความหนาแน่นของเนื้อกระเบื้อง โดยควรเลือกแบบที่มีความหนาแน่นสูง และเลือกแบบที่เรียบทั้งแผ่น หากเป็นแบบที่มีนาโนเคลือบจะยิ่งดี ที่สำคัญควรเลี่ยงแบบมีรูพรุนเพราะจะเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น

ข้อควรระวังสำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุ ควรเลี่ยงการใช้กระเบื้องแกรนิตโต้แบบผิวมัน เพราะแม้จะดูแลรักษาทำความสะอาดได้ง่ายแต่ก็ให้ผิวสัมผัสที่ค่อนข้างลื่นจึงเป็นอันตรายต่อผู้สูงอายุ

ข้อดี

• แข็งแรงทนทาน

• ทนต่อการขีดข่วย

• มีให้เลือกหลากหลาย

• ไม่ดูดซึมน้ำ

ข้อเสีย

• ผิวสัมผัสแข็งและเย็นเท้า

• หากปูบริเวณที่โดนแดดผิวจะเป็นฝ้าไม่สวยงาม

6. หินอ่อน

วัสดุปูพื้นหินอ่อนมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์คือลวดลายของแผ่นที่ไม่ซ้ำกันด้วยมาจากแหล่งธรรมชาติที่แตกต่างกัน ตัวผืนแผ่นมีความสวยงาม เงางาม ให้ความรู้สึกหรูหรามีระดับ และรู้สึกเย็นสบายเข้าถึงธรรมชาติ เมื่อนำมาใช้ตกแต่งบ้าน

หินอ่อนมีจุดเด่นที่ลวดลาย ดังนั้นการเลือกใช้งานโดยเฉพาะในงานปูพื้นจึงต้องพิถีพิถัน โดยควรเลือกให้แต่ละแผ่นมีลายต่อกัน หรือลายโทนสีเดียวกันเพื่อให้สะดวกต่อการปูพื้นและให้เกิดความสวยงามลงตัวมากที่สุด

ข้อดี

• ลวดลายสวยงาม โดดเด่น

• แข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน

• อายุการใช้งานยาวนาน

• ให้ความรู้สึกหรูหรา

ข้อเสีย

• เกิดรอยขูดขขีดได้ง่ายและดูแลรักษายาก

• มีราคาสูงกว่าวัสดุประเภทอื่น

• มีความลื่นเมื่อเปียกน้ำจึงควรรีบเช็ดให้แห้งเพื่อป้องกันอันตราย

การเลือกใช้วัสดุปูพื้นควรเลือกอย่างพิถีพิถัน โดยคำนึงถึงความเหมาะสมในการใช้งาน ความสวยงาม ความทนทาน และที่สำคัญ ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อผู้พักอาศัย โดยก่อนตัดสินใจเลือกเจ้าของบ้านอาจลองปรึกษาทีมออกแบบจากบริษัทรับสร้างบ้านที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้เลือกได้อย่างเหมาะสมและใช้งานได้อย่างยาวนาน